ประโยชน์ของการซื้อของจาก Farmers Outlet
Lin Jsin YI(China Productivity Center Agriculture Management Department)
อาหารเป็นสิ่งจำเป็นของชีวิต คุณซื้ออาหารหรือวัตถุดิบในการปรุงอาหารในแต่ละวันที่ไหน แหล่งช้อปปิ้งมีหลากหลายช่องทาง อาทิ ตลาดสด ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต (ตัวอย่างเช่น PX-Mart, Carrefour, Costco เป็นต้น) ตลอดจนร้านสะดวกซื้อที่กระจายตัวอยู่อย่างหนาแน่น การซื้อของออนไลน์สามารถจัดส่งถึงบ้านได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส บางคนเลือกที่จะไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตของสมาคมเกษตรกร ร้านขายตรงของเกษตรกร ตลาดเกษตร หรือซื้อโดยตรงจากเกษตรกร การซื้อของที่ฟาร์มที่ผ่านระหว่างทริปท่องเที่ยวหรือจากฟาร์มที่เพื่อนแนะนำ ช่องทางการซื้ออาหารหลากหลาย มีช่องทางไหนที่คุณยังไม่เคยซื้อบ้าง? คุณเคยสงสัยไหมว่า แต่ละช่องทางต่างกันอย่างไร? อะไรคือร้านขายตรงของเกษตรกร? บทความนี้ จะแนะนำร้านค้าขายตรงของเกษตรกร เนื่องจาก อาจเป็นช่องทางที่คุณไม่คุ้นเคย และหวังว่าคุณจะได้พบกับรูปแบบการช้อปปิ้งใหม่ ที่น่าสนใจ คุ้มค่า และน่าสนับสนุน
ร้านขายตรงของเกษตรกรคืออะไร?
ร้านขายตรงของเกษตรกร เป็นช่องทางการตลาดที่จัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลท้องถิ่น สมาคมเกษตรกร และองค์กรเกษตรกรอื่นๆ โดยได้รับความช่วยเหลือจากสำนักงานเกษตรและอาหารของกรมส่งเสริมการเกษตร โดยในปี 2564 มีร้านขายตรงของเกษตรกรจัดตั้งขึ้นภายใต้การแนะนำช่วยเหลือจากสำนักงานเกษตรและอาหาร จำนวน 42 แห่ง กระจายในเกือบทุกเมือง สามารถตรวจหาร้านขายตรงเกษตรกรใกล้บ้านคุณ จากเว็บไซต์ http://www.farmerstation.tw/indexgo.aspx
วัตถุประสงค์ของร้านขายตรงของเกษตรกร คือ การส่งเสริมการผลิตและการบริโภคในท้องถิ่น ลดต้นทุนคนกลาง ลดต้นทุนการขนส่ง เพิ่มช่องทางการขายให้แก่เกษตรกรรายย่อย คุณสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรหรือผลิตภัณฑ์แปรรูปเบื้องต้นที่ส่งตรงจากแหล่งผลิตสดใหม่ในวันเดียว แทนการซื้อผ่านตัวแทนจำหน่าย เกษตรกรเป็นผู้กำหนดราคาและขายสินค้าเอง ร้านขายตรงของเกษตรกรมีหน้าที่รับผิดชอบความปลอดภัยของสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทานของสดใหม่ ปลอดภัย เป็นมิตร และมีคุณภาพสูง ดังนั้นเมื่อคุณเดินเข้าร้านค้าขายตรงของเกษตรกร คุณมีโอกาสได้พบเห็นเกษตรกรจัดเรียงผลิตภัณฑ์บนชั้นวาง ได้พูดคุยกับเกษตรกร ทำให้เกษตรกรสามารถรับทราบความต้องการของผู้บริโภค ทราบแนวโน้มตลาด
ร้านขายตรงของเกษตรกรแตกต่างจากช่องทางอื่นๆ อย่างไร?
ตามข้อมูลที่ได้แนะนำข้างต้น ร้านขายตรงของเกษตรกรอาจเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่น่าสนใจ ที่แตกต่างจากร้านค้าทั่วไปที่มีแต่ผู้จัดการและพนักงาน ที่นี่คุณจะเห็นเกษตรกรรอบตัวคุณ ช่องทางจำหน่ายของเกษตรกรแตกต่างจากช่องทางอื่นๆ อย่างไร? สามารถแบ่งคร่าวๆ ตามความแตกต่างของผลิตภัณฑ์, ตลาด (ลูกค้า), และบริการ (กระบวนการ)
ความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ที่ขายในร้านค้าขายตรงของเกษตรกร เป็น ผลิตภัณฑ์สดใหม่ที่เก็บเกี่ยวและส่งตรงถึงร้านในวันเดียว หรือเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปเบื้องต้นโดยเกษตรกรที่ส่งตรงจากแหล่งผลิตวันเดียวกันหรือในฤดูกาลนั้นๆ ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่จำหน่ายในร้านไม่จำเป็นต้องเป็นสินค้าทั่วไปที่ผลิตจำนวนมาก อาจเป็นสินค้าเฉพาะที่มีจำนวนจำกัด ทำให้มีสินค้าหลากหลาย ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการสืบสานมรดกวัฒนธรรมท้องถิ่นด้านอาหารอีกด้วย
ความแตกต่างของตลาด (ผู้บริโภค) ลูกค้าที่ร้านค้าขายตรงของเกษตรกรส่วนใหญ่ เป็น ผู้ที่อยู่อาศัยในชุมชนใกล้เคียง ร้านค้าขายตรงของเกษตรกรส่วนใหญ่ใช้ระบบสมาชิก ที่อาศัย LINE และ Facebook ในการส่งข้อมูลไปยังผู้บริโภค ตัวอย่างเช่น การแจ้งรายการผลิตภัณฑ์ที่จะขายหรือกิจกรรมโปรโมชั่นล่วงหน้า มีบริการจองผลิตภัณฑ์ล่วงหน้าสร้างความสะดวกและมั่นใจให้กับกลุ่มสมาชิก สามารถซื้อผลิตภัณฑ์ได้สะดวกสบาย จองก่อน รับของทีหลังในวันที่สะดวก นอกจากนี้ยังมีบริการหลังการขาย เกษตรกรสามารถแนะนำการจัดเก็บ การแปรรูปผลิตภัณฑ์ หรือแม้แต่แนะนำเมนูอาหารที่น่าสนใจผ่านแพลตฟอร์มสมาชิก ผลิตภัณฑ์ที่ขายภายในร้านจะมีข้อมูลของผู้ผลิต ชื่อ รูปภาพ ชื่อฟาร์ม วิธีการผลิต ทำให้ผู้บริโภครับทราบและเข้าใจถึงแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิตได้เป็นอย่างดี ทำให้รู้สึกปลอดภัย สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ค่อยเห็นในตลาดทั่วไปนั้น ทางร้านจะแนะนำข้อมูลโภชนาการและสูตรการปรุงอาหาร สร้างการรับรู้และกระตุ้นความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์นั้นๆ มากยิ่งขึ้น
สำหรับความแตกต่างของการบริการ (กระบวนการ) ร้านขายตรงของเกษตรกรแตกต่างจากช่องทางการขายอื่น ๆ กล่าวคือ พนักงานเป็นเสมือนเพื่อนหรือเพื่อนบ้านของคุณ พวกเขาให้บริการที่อบอุ่นผ่านการสนทนาพูดคุย, แบ่งปันข่าวสารของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เพิ่งมาถึง, เคล็ดลับในการเลือก ดูแลและเก็บรักษา, แนะนำผักและผลไม้ที่เข้าเซ็ตกัน, วิธีและสูตรการปรุงอาหารในท้องถิ่น, ข้อมูลด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพ เป็นเสมือนสะพานที่ส่งต่อคำถามหรือความต้องการจากผู้บริโภคสู่เกษตรกร ภายร้านอาจพบเห็นโปสเตอร์ที่เขียนด้วยมือ ซึ่งสามารถเพิ่มเสน่ห์ให้กับผักและผลไม้ได้ไม่น้อย นอกจากนี้ยังมีเพิ่มเติมบริการต่างๆ ตามความต้องการของลูกค้า อาทิเช่น กรุ๊ปบายหรือการร่วมกันซื้อ, แพ็คเกจของขวัญตามเทศกาล, กล่องผักส่งถึงบ้าน, บริการสีข้าว ฯลฯ
ประโยชน์ของการช้อปปิ้งในร้านขายตรงของเกษตรกร?
เป็นช่องทางการช้อปปิ้งที่ใกล้ชิดกับผู้ผลิตมากที่สุด ผู้บริโภคได้พบปะ พูดคุย สอบถามกับเกษตรกรโดยตรง พัฒนาเป็นมิตรภาพส่วนตัว ร้านค้าบางแห่งจะจัดกิจกรรมเพื่อให้ผู้บริโภคได้พบปะกับเกษตรกร เช่น กิจกรรมนำเที่ยวในพื้นที่, กิจกรรมเสริมสร้างความรู้ด้านอาหารและการเกษตร เป็นต้น เป็นกลไกการสร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจระหว่างผู้ผลิต ผู้บริโภค และร้านค้า
ในมุมของผู้บริโภค ผู้บริโภคสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่สดและปลอดภัย, ได้เรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่น, และวัฒนธรรมอาหาร ในมุมของเกษตรกร ร้านขายตรงของเกษตรกรช่วยเพิ่มช่องทางการตลาด โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยที่มีการผลิตไม่เพียงพอสำหรับช่องทางการตลาดทั่วไป ร้านขายตรงของเกษตรกรคือหุ้นส่วนที่ดีที่ขาดไม่ได้ เพราะเกษตรกรสามารถกำหนดราคา อัตรากำไร และรายได้ได้เอง เข้าใจความต้องการของผู้บริโภค เกษตรกรสามารถเพิ่มกำลังการผลิตตามความต้องการของลูกค้า ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการสื่อสาร ให้ทั้งสามฝ่ายมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้น ทำงานบนกลไกอุปสงค์อุปทานที่โปร่งใส
บทสรุป
ไต้หวัน ตั้งเป้า มลพิษเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 ผู้บริโภคที่ซื้ออาหารจากร้านขายตรงของเกษตรกร เป็นการสนับสนุนการเกษตรแบบยั่งยืน, การมีส่วนร่วมในกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ด้านอาหารและการเกษตรและการบริโภคอาหารคลีน เป็นสนับสนุนแนวคิดผลิตและบริโภคในท้องถิ่น, ลดการปล่อยมลพิษ ร้านขายตรงของเกษตรกรเป็นกุญแจสำคัญในการผลิตและบริโภคในท้องถิ่น ช่วยลดมลพิษ ร้านมีเอกลักษณ์เฉพาะไม่เพียงแต่สร้างคุณค่าทางสังคม แต่ยังเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขจัดความหิวโหย เพื่อปริมาณอาหารที่เพียงพอ การเกษตรที่ยั่งยืน มลพิษเป็นศูนย์ ลดปัญหาอากาศแปรปรวน ประโยชน์ของการจับจ่ายซื้อของที่ร้านขายตรงของเกษตรกรนั้นมีมากมาย ไม่เพียงแต่ในส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสังคมสิ่งแวดล้อมด้วย เป็นเทรนด์ของอนาคต หากคุณยังไม่เคยไปที่ร้านขายตรงของเกษตรกร คุณควรไปดูสักครั้ง แล้วคุณได้จะสัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่คุ้มค่ามากมายแน่นอน