การปลูก การผลิต และการขายในท้องถิ่น ครบวงจรในเมืองหยุนหลิน
:::

การปลูก การผลิต และการขายในท้องถิ่น ครบวงจรในเมืองหยุนหลิน

การกำหนดและส่งเสริมนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลไต้หวันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นโยบายการพัฒนาความปลอดภัยด้านอาหาร เกี่ยวข้องกับกระทรวงและกรมต่างๆ หากปราศจากการสื่อสารที่สมบูรณ์และการแบ่งงานที่ชัดเจน การส่งเสริมความปลอดภัยของอาหารจะไม่ดีเท่าที่ควร อุตสาหกรรมอาหารของไต้หวันร้อยละ 97 เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ผู้ประกอบการที่สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรการความปลอดภัยของอาหารที่ปรับเปลี่ยนใหม่บ่อยนั้น มีจำนวนน้อยกว่า 3% โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตการตรวจสอบการผลิตย้อนกลับนั้น มีเพียงองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่เท่านั้น ที่สามารถทำได้

ในปีนี้ กลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารขนาดกลางและขนาดย่อมในเมืองหยุนหลิน ก็กำลังเผชิญกับกฏระเบียบและมาตรการความปลอดภัยของอาหารที่ปรับเปลี่ยนใหม่ มาตรการการใช้แพลตฟอร์มคลาวด์ five musts ตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัยของอาหารที่เพิ่มต้นทุนมากขึ้น ด้วยความช่วยเหลือของกระทรวงพาณิชย์ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตกลุ่มนี้ได้ปรับโหมดการทำงานเป็นความร่วมมือระหว่างกัน ตั้งแต่การแบ่งปันทรัพยากรการผลิตไปจนถึงการแปรรูปอาหารและการจัดหาแหล่งที่มา เพื่อบรรลุความปลอดภัยของอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ประกอบการรายใหญ่มีส่วนร่วมในการจัดการวัตถุดิบ และร่วมแรงร่วมใจกันประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการขายสินค้าที่ดีมีคุณภาพของหยุนหลินสู่ตลาด

ภายใต้ค่านิยมองค์กรที่เน้นการแบ่งปันทรัพยากร การแบ่งปันผลประโยชน์ การเติบโตและพัฒนาไปด้วยกันนั้น กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจอาหารในเมืองหยุนหลินสนุกที่จะเรียนรู้จากกันและกัน จับมือกัน ซึ่งสามารถเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้มากขึ้นด้วย ภายใต้โครงการการให้คำปรึกษาของกองวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กระทรวงพาณิชย์ (Small and Medium Enterprises Administration of MOEA) ทำให้ผู้ประกอบการได้รู้จักและเข้าใจคู่ค้าที่จริงจังกับธุรกิจ เปี่ยมไปด้วยอุดมการณ์ มีการสื่อสารและเรียนรู้จากกันและกัน ทำให้ผู้ประกอบการค้นพบวิถีทางพัฒนาให้เจริญก้าวหน้า

ดังที่กล่าวมาข้างต้น กลุ่มพันธมิตรอุตสาหกรรมอาหารเสนอใช้แพลตฟอร์มคลาวด์ five musts ตามกฎความปลอดภัยของอาหาร โดยเน้นส่งเสริม ฟืน ข้าว น้ำมัน เกลือ ซอส น้ำส้มสายชู และชา เป็นสินค้าหลัก ส่งเสริมการปลูกในท้องถิ่น การผลิตในท้องถิ่น การขายในท้องถิ่น ซึ่งสอดคล้องกับแพลตฟอร์มคลาวด์ five musts ของรัฐบาล, ข้อกำหนดด้านเทคโนโลยีแอปพลิเคชันสำหรับผู้บริโภค, การบูรณาการและให้คำปรึกษาการด้านการจัดการภายใน, การบูรณาการพัฒนาและการวางแผนให้สอดคล้องกับการจัดระดับคุณภาพสินค้าของรัฐบาล, การเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดร่วมกัน เพื่อให้บรรลุการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่ดีของเมืองหยุนหลิน

เจ็ดสิ่งสำคัญของชีวิต ได้แก่ ฟืน ข้าว น้ำมัน เกลือ ซอส น้ำส้มสายชู ชา ภายใต้แนวคิด “ฟืน” หมายถึงหุ่นเชิดในตำบลหูเหว่ย(Huwei) โดยการแนะนำให้เข้าใจถึงกรรมวิธีการผลิตหุ่นกระบอก การเชิดหุ่นกระบอก การใช้เสียง การสร้างบรรยากาศในการชม การพากย์เสียงโดยอาศัยเทคโนโลยี "ข้าว" ตำบลซีหลัว (Xiluo) ปลูกในดินที่มีความหนืดสูงที่แม่น้ำจั๋วสุ่ย (Zhuoshui) เหมาะสำหรับการปลูกข้าวด้วยระบบชลประทาน ข่าวที่ปลูกมีกลิ่นหอมและเหนียวนุ่ม ในสมัยที่ญี่ปุ่นปกครองไต้หวัน จักรพรรดิญี่ปุ่นจะรับประทานข้าวนี้ "น้ำมัน" หมายถึง น้ำมันชาสกัดเย็นที่ผลิตเอง มีคุณภาพสูง สามารถใช้ทอด ผัด หรือกินสดได้ “เกลือ" สามารถรักษาคุณภาพให้คงที่ ทำให้รูปลักษณ์ภายนอกและรสชาติดีขึ้น เพิ่มกลิ่น รสชาติ และคุณค่าทางอาหาร "ซอส" ซีอิ๊วปรุงรสที่ทำจากถั่วดำ ซีอิ๊วถั่วดำแท้ตำรับโบราณ มีเสน่ห์ เหมาะกับอาหารทุกประเภท, เต้าเจี้ยวซีอิ้วดำรสชาติกลมกล่อม หอมอร่อย เหมาะสำหรับปรุงรสหรือทำน้ำจิ้ม "น้ำส้มสายชู" น้ำส้มสายชูที่ทำจากบ๊วย ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย แก้อ่อนเพลีย เสริมพละกำลังและภูมิคุ้มกันในร่างกาย “ชา” ชาอูหลงถั่วดำ มีฤทธิ์ลดเสมหะ ทำให้สดชื่น และลดอาการบวมน้ำได้ รสชาติดีเมื่อชงในน้ำร้อน 85 องศา

การผลิตและการขายในท้องถิ่นช่วยเสริมสร้างพื้นฐานในการจัดการแหล่งที่มาการปลูกและการเพาะพันธุ์อาหารของชุมชน จัดทำใบรับรองแหล่งเพาะปลูก, ประวัติการผลิตและการขาย เพื่อยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์, การบริหารจัดการองค์กร, มาตรฐานและการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพในท้องถิ่น ลดการสูญเสียและของเสีย ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงรับรองการจัดการความปลอดภัยของอาหาร ISO 22000 การขายในพื้นที่และการขายผ่าน Yunlin Agricultural Product Exhibition (雲林形象物產館) การประยุกต์ใช้การท่องเที่ยวเชิงอาหารเพิ่มมูลค่าทางการตลาด ผ่านการวางแผนการตลาดเชิงโต้ตอบ อีคอมเมิร์ซและอื่น ๆ สร้างแบรนด์ร่วมระหว่างกัน รวมถึงการสั่งซื้อออนไลน์ QR Code และแพลตฟอร์มคลาวด์ five musts

ปัจจุบัน มีผู้ผลิต 12 ราย รวมกลุ่มกันจัดตั้ง สินค้าดีของชุมชนเมืองหยุนหยิน (Value Community of Good Products of Yunlin) ทุกคนปฏิบัติต่อกันด้วยความจริงใจและทำงานหนัก ผู้ผลิตแต่ละรายเจริญก้าวหน้าในการดำเนินธุรกิจทั้งในเชิงลึกและเชิงกว้าง ด้วยแนวคิดที่เน้น การปลูกในท้องถิ่น การผลิตในท้องถิ่น และการขายในท้องถิ่น ครบวงจรในเมืองหยุนหลิน มีการกำหนดเป้าหมายและกลยุทธ์เพื่อการพัฒนาและทำงานร่วมกัน ยกระดับอุตสาหกรรมในภาพรวม เพิ่มช่องทางการผลิตและการขาย มีการจับมือร่วมกับรัฐบาลและสถาบันการศึกษา และหน่วยงานอื่นๆ ให้ความร่วมมือกับส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น

การอบรมให้คำปรึกษา นอกจากจะปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานแล้ว การสัมมนาทางเทคนิคและการปรับปรุงและการวิจัยพัฒนาร่วมกัน การอภิปรายและการเรียนรู้ร่วมกัน สามารถเร่งประสิทธิภาพในการปรับปรุงคุณภาพ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค นอกจากนี้ การเรียนรู้และคำแนะนำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลือในด้านเทคนิคและการยื่นจดสิทธิบัตร เอื้อประโยชน์ปรับปรุงเทคโนโลยี R&D ผนวกกับระบบข้อมูลเข้ากับช่องทางการขาย เก็บรวบรวมข้อมูลคำติชมเสียงตอบรับจากผู้บริโภค ช่วยรวมจุดแข็งของผู้ผลิตต่างๆ เข้าด้วยกัน ใช้ความเชี่ยวชาญของแต่ละคน สร้างสรรค์ความสำเร็จร่วมกัน

เชื่อว่า ผู้ผลิตอาหารกลุ่มนี้จะร่วมมือกันและกำจัดความเห็นแก่ตัวออกไป การร่วมมือกับภาครัฐเข้าร่วมนิทรรศการและกิจกรรมการขายในและต่างประเทศ, Yunlin Agricultural Product Exhibition, ขายผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ (online to offline : O2O) ออนไลน์ อาทิ เว็บไซต์ Yunlin Agricultural Product Exhibition, แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ในประเทศ, การบริหารจัดการแฟนคลับในเฟสบุค ออฟไลน์ อาทิ สถานีรถไฟความเร็วสูง, Yunlin Agricultural Product Exhibition, นิทรรศการส่งเสริมการขายของรัฐบาล, และโรงงานท่องเที่ยวต่างๆ ที่ร่วมมือกันส่งเสริมการขาย ปัจจุบันโรงงานท่องเที่ยวและฟาร์มเชิงนิเวศน์ ได้พัฒนาไปมากแล้ว การเดินทางภายในประเทศและการพักผ่อนอื่น ๆ สามารถพัฒนาเป็น เดย์ทัวร์ และทัวร์สองวัน เป็นการท่องเที่ยวเสริมความรู้ นอกจากนี้ยังได้สัมผัสกับการตลาดประสาทสัมผัสทั้งห้า marketing of the five senses ซึ่งสามารถดึงดูดผู้บริโภคจำนวนมากให้มาเยี่ยมชมและจับจ่ายซื้อของ สร้างกำไรอย่างเห็นได้ชัด

ดังนั้น หวังว่ากลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารขนาดกลางและขนาดย่อม ที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากในการทำธุรกิจมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อกำหนดหรือนโยบายการส่งเสริมของรัฐบาล, แรงกดดันจากในและนอกประเทศ แต่หากจัดตั้งรูปแบบความร่วมมือพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม มีโอกาสสร้างกลุ่มที่ได้เปรียบมีความพร้อมความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศ อุตสาหกรรมที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากในไต้หวัน ผู้ผลิตแต่ละรายสร้างมิตรภาพ และค่อยๆ สร้างวัฒนธรรมในองค์กรที่มีความจริงใจ, ตั้งใจทำงานอย่างหนัก, และมีมโนธรรม จากนั้นค่อยพัฒนา R&D, การผลิต และการขายซึ่งกันและกัน เสริมจุดแข็งของกันและกัน สร้างโครงสร้างที่ประสบความสำเร็จ สร้างผลกำไรให้ชุมชน ผนวดเทคโนโลยี นวัตกรรม วัฒนธรรม ความรู้ อีคอมเมิร์ซ การอ้างอิง ฯลฯ เชื่อว่า กลุ่ม SME ไต้หวัน สามารถสร้างสรรค์ ห่วงโซ่ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง บนพื้นฐานความรู้และเทคโนโลยี ขยายตัวสู่ตลาดโลก