มุมมองใหม่เกี่ยวกับเวชศาสตร์ป้องกัน – ผู้ดูแลกรีนแคร์
ภาพสะท้อนสังคมสูงวัย
คุณอยากใช้ชีวิตวัยชราแบบไหน ทุกคนจะค่อยๆ มีอายุมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และภายใต้สังคมสูงวัยในไต้หวัน คุณภาพชีวิตของคนวัยชรากำลังได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ไต้หวันเข้าสู่สังคมสูงวัยในปี 2018 และในอีก 8 ปี ก็จะเข้าสู่สังคมสูงวัยมาก ความชรานี้รวดเร็วกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วบางประเทศเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นเราจึงควรใส่ใจในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับชีวิตผู้สูงอายุในไต้หวันมากยิ่งขึ้น
คณะกรรมการการเกษตรของสภาบริหาร (ต่อไปนี้จะเรียกว่าคณะกรรมการการเกษตร) ประยุกต์แนวคิดใหม่ๆ ในการดูแลผู้สูงอายุ เป็นผู้นำแนวคิดกรีนแคร์ ที่เริ่มในปี 2019
แนวคิดกรีนแคร์
กรีนแคร์ คือ การผนวกสีเขียวและธรรมชาติ เข้ากับแนวคิดของการดูแลสุขภาพ ผ่านกระบวนการปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนกับสิ่งต่าง ๆ ในธรรมชาติ การบำบัดรักษาทั้งทางร่างกายและจิตใจเพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับชีวิตที่มีสุขภาพดีขึ้น
ในปี 2020 สภาเกษตรได้เสนอแผนการให้คำปรึกษาที่เรียกว่า การสร้างระบบดูแลสิ่งแวดล้อมและเครือข่ายการดำเนินงาน ซึ่งประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 4 ประการคือ หนึ่ง สร้างพื้นที่สีเขียวที่ดีต่อสุขภาพ เรียกสั้นๆ ว่า ลานสุขภาพอี้คัง (Yi Kang) เช่น เปลี่ยนห้องเรียนเก่าของสมาคมเกษตรกร เป็นสนามที่สามารถจัดกิจกรรมการเกษตรหรือพื้นที่รับประทานอาหารร่วมกัน เพื่อให้ผู้สูงอายุได้พักผ่อน สอง คือ การออกแบบชุดกิจกรรมเชิงประสบการณ์ ผสมผสานลานสุขภาพอี้คัง และองค์ประกอบการเกษตรในท้องถิ่น เพื่อผลักดันให้ผู้สูงอายุออกจากบ้าน ขยับมือ เท้า และมีปฏิสัมพันธ์กับสังคม สาม คือ การออกแบบอาหารที่ถูกปาก ดีต่อสุขภาพ และมีลักษณะเฉพาะของท้องถิ่นสำหรับผู้สูงอายุ โดยผสมผสานผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรในท้องถิ่นและแนวคิดโภชนาการอาหารเข้าด้วยกัน การรับประทานร่วมกันเพื่อให้ผู้สูงอายุสื่อสารกัน ดูแลซึ่งกันและกัน และสุดท้าย การเชื่อมโยงองค์กรการเกษตรที่เกี่ยวข้อง (อาทิเช่น ชั้นเรียนคหกรรมศาสตร์ของสมาคมเกษตรกรและประมง ฯลฯ) เพื่อเข้าร่วมการดูแลผู้สูงอายุและจัดให้มีการปรึกษาหารือด้านสุขภาพและเยี่ยมเยือนบ้านเป็นประจำ องค์ประกอบทั้ง 4 นี้ ยังรวมแนวคิดของการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การมีปฏิสัมพันธ์ และการแบ่งปันซึ่งกันและกัน โดยหวังว่าจะทำให้ชีวิตของผู้สูงอายุมีสุขภาพที่ดีและมีสีสันมากขึ้น แทนที่จะอยู่แต่บ้านและใช้เวลาไปวัน ๆ เพียงลำพัง
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าว จำเป็นต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของผู้คนจำนวนมาก และการร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้น เราควรฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญดังกล่าวอย่างไร นอกจากนี้ การสัมผัสกับธรรมชาติและองค์ประกอบสีเขียว จะนำมาซึ่งประโยชน์ประเภทไหนอย่างไรต่อชีวิตและจิตใจของคน เราจะอธิบายให้คุณเข้าใจ
ธรรมชาติดีต่อสุขภาพของคน
ในที่นี้ ขอกล่าวถึงวิธีการสัมผัสธรรมชาติ 4 วิธีที่แตกต่างกัน แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ที่มีต่อสุขภาพ 4 วิธีประกอบด้วย ลานสุขภาพอี้คัง, กิจกรรมสีเขียว, กิจกรรมสวนสังคม, และการปฏิสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิต
1. ลานสุขภาพอี้คัง
คุณเคยมีประสบการณ์แบบนี้บ้างไหม วันหนึ่ง ขณะที่คุณเดินอยู่บนถนน ความสนใจของคุณถูกทิวทัศน์ข้างทางดึงดูดโดยไม่รู้ตัว ทิวทัศน์เหล่านี้อาจเป็นนาข้าว ดอกไม้ ป่าไม้ หรือบ่อน้ำใสกว้างใหญ่ คุณหยุดและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ธรรมชาติอย่างเงียบ ๆ เมื่อคุณชื่นชมทิวทัศน์ธรรมชาติ จิตใจของคุณจะถูกดึงดูดโดยองค์ประกอบทางธรรมชาติ ในเวลานี้ผู้คนอยู่ในสถานะว่างเปล่า สภาวะของจิตใจผ่อนคลายและพักผ่อน และหลังจากพักผ่อนแล้ว คุณสามารถฟื้นฟูสมาธิได้ เพื่อทุ่มเทให้กับงานหรือกิจกรรมต่อไปได้อย่างจริงจัง ดังนั้นการชื่นชมทิวทัศน์ธรรมชาติ ไม่เพียงจะทำให้อารมณ์ดีขึ้นเท่านั้น ความสุขและความรู้สึกผ่อนคลาย ยังทำให้คุณคิดและทำสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจนขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
2. กิจกรรมส่งเสริมสิ่งแวดล้อม
ผมเชื่อว่าหลายคนมีประสบการณ์ในการเดินป่าในป่าและเพลิดเพลินกับการอาบป่า (Forest bathing) นอกจากระบบนิเวศวิทยาแล้ว ยังทำให้ผู้คนได้รับประสบการณ์หลากหลาย (การมองเห็น การได้ยิน การสัมผัส การได้กลิ่น) เช่น การจ้องมองร่มเงาสีเขียวของป่า การฟังเสียงแมลงและนกร้องในป่า, การสูดดมไฟทอนไซด์ (Phytoncide) และไอออนลบ (Negative Ion) ที่ระเหยออกมาจากต้นไม้, การสัมผัสใบไม้หรือมอส ไม่เพียงจะช่วยบรรเทาความรู้สึกวิตกกังวล แต่ยังช่วยลดอารมณ์ด้านลบได้อีกด้วย ดีต่อสุขภาพ ะผลการทดลองพบว่า ระดับคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือดของคนที่ทำงานในป่าจะต่ำกว่าคนที่ทำงานปกติทั่วไป ได้ยินแบบนี้แล้ว คุณรู้สึกไหมว่า คุณไม่ได้สัมผัสกับป่าเป็นเวลานานแล้ว คุณน่าจะไปเดินเล่นในป่าในช่วงวันหยุดบ้างนะ
3. กิจกรรมสวนเพื่อสังคม
แม้ว่าหลายคนจะโหยหาชีวิตที่เป็นธรรมชาติในชนบทและหวังว่าจะได้ตื่นขึ้นมาท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจีทุกๆ วัน แต่คนยุคใหม่ส่วนใหญ่ไม่สามารถอยู่นอกเมืองได้ พวกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำงาน ใช้ชีวิตในเมือง ความต้องการที่เป็นเจ้าของสวนเล็กๆ ของตัวเองก็กลายเป็นสิ่งหรูหรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุ การใกล้ชิดกับธรรมชาติยากยิ่งขึ้น ภายใต้สภาพแวดล้อมเช่นนี้ ผู้คนอดไม่ได้ที่จะเริ่มคิดว่า ย้ายธรรมชาติมาอยู่ในเมืองจะดีกว่า!
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กิจกรรมสีเขียว ได้รับความนิยมอย่างมากในเมือง กิจกรรมสีเขียวที่ผสมผสานระหว่าง งานฝีมือและต้นพืช อาทิเช่น การปลูกพืชในกระถางต้นไม้ การปลูกต้นมอส ฯลฯ กิจกรรมนี้เกิดขึ้นในช่วงยามว่างของคนในเมือง คน ผู้คนสามารถใช้ในช่วงเวลาหลังเลิกงาน รอบๆ บ้าน พักความเบื่อหน่ายจากการทำงาน สัมผัสความมีชีวิตชีวาของต้นไม้ สัมผัสความรู้สึกของความสำเร็จที่เกิดจากการทำด้วยมือ และชื่นชมความงามของ ผลงาน จากการวิจัยกิจกรรมสีเขียวไม่เพียงจะสามารถเพิ่มพลังและความรู้สึกภาคภูมิใจในความสำเร็จเท่านั้น แต่ยังรักษาอารมณ์ที่มีความสุข ซึ่งมีประสิทธิภาพมากในการบรรเทาความเครียด
4. การปฏิสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิต
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฟาร์มเพื่อการพักผ่อน ได้เติบโตพัฒนาอย่างรวดเร็วในไต้หวัน นอกจากจะทำให้ผู้คนได้ใกล้ชิดธรรมชาติแล้ว ยังสามารถสัมผัสกับสัตว์ต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด เช่น การป้อนหญ้าให้กับอัลปาก้า ลูกแกะ และกระต่ายน้อย เป็นต้น เมื่อผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์พวกเขามักจะยิ้มโดยไม่รู้ตัว ในทางจิตวิทยา ประสบการณ์โต้ตอบดังกล่าว จะช่วยให้ผู้คนมีอารมณ์เชิงบวกมากขึ้น และยังมีผลทางสรีรวิทยาที่สำคัญอีกด้วย
วิธีการสัมผัสกับธรรมชาติทั้ง 4 วิธีข้างต้น สามารถก่อให้เกิดประโยชน์มากมายต่อสรีรวิทยาและจิตวิทยาของคนเรา ดังนั้น การรวมองค์ประกอบทางธรรมชาติเหล่านี้ เข้ากับการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อหวังว่าจะทำให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพที่ดีและมีความสุขมากยิ่งขึ้น
หลักสูตรการฝึกอบรมและรับรอง ผู้ดูแลกรีนแคร์
แม้ว่าประโยชน์ที่ได้รับจากองค์ประกอบสีเขียวจะเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่ง่ายที่จะนำไปใช้จริง ๆ นอกจากการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแล้วจำเป็นต้องมีบุคลากรที่เชี่ยวชาญ มืออาชีพ ในการดูแลผู้สูงอายุเข้าร่วมกิจกรรมด้วย
ดังนั้น สภาเกษตร (The Council of Agriculture: COA) จึงได้เปิดหลักสูตรอบรม กรีนแคร์ ให้แก่ผู้สนใจ และร่วมมือกับสมาคมสวัสดิการพืชสวนไต้หวัน ในการเชิญวิทยากรมืออาชีพ มาบรรยาย กรีนแคร์ ร่วมกันส่งเสริมแนวคิด รักษ์โลก ในอนาคต
แนวคิดและการออกแบบหลักสูตรอบรมกรีนแคร์
ขั้นที่ 1 หลักสูตรออนไลน์มืออาชีพ
ด้วยหลักสูตรการบรรยายออนไลน์ที่เคร่งครัด นำพานักเรียนเข้าสู่การเป็นกรีนแคร์ การออกแบบหลักสูตร มีการแบ่งระดับตั้งแต่ง่ายไปจนยาก เนื้อหาเริ่มตั้งแต่ การบำรุงรักษาพืชขั้นพื้นฐาน การเกษตรเพื่อสุขภาพ ไปจนถึงการออกแบบสวนอี้คัง และการอภิปรายปรัชญาชีวิต ฯลฯ เพื่อให้กรีนแคร์ในอนาคต สามารถประยุกต์พื้นฐานความรู้เชิงลึกและแนวคิดการดูแล กิจกรรมสีเขียวให้เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ
ขั้นที่ 2 หลักสูตรการปฏิบัตินอกสถานที่
วิทยากรมืออาชีพจะนำนักเรียนไปทำกิจกรรม DIY อาทิเช่น การทำสวนน้อยๆ ในลูกแก้ว การพิมพ์ภาพจากวัสดุธรรมชาติ และการประเมินคุณภาพชาสมุนไพร ฯลฯ ให้นักเรียนได้รับประสบการณ์จริง ผ่านการปฏิบัติจริง นักเรียนจะสามารถออกแบบกิจกรรม และชี้นำผู้สูงอายุให้ทำกิจรรมได้ง่ายยิ่งขึ้น สามารถเข้าใจถึงปัญหาอุปสรรคของกิจกรรมนั้นๆ ได้อย่างชัดเจน สร้างสรรค์จินตนาการให้คิดต่อ ให้ความสนใจกับองค์ประกอบสีเขียวที่อยู่รอบๆ ตัวมากยิ่งขึ้น และนำมาประยุกต์ให้เกิดไอเดียใหม่ในการออกแบบกิจกรรม DIY ต่างๆ
ขั้นที่ 3 การแบ่งกลุ่มซ้อมปฏิบัติ
การแบ่งกลุ่มซ้อมปฏิบัติ เป็นขั้นตอนของการเปลี่ยนบทบาทผู้เข้าอบรม เป็นผู้ดูแลกรีนแคร์ที่ใช้ความรู้และทักษะที่เรียนรู้มาจากขั้นที่ 1 และ 2 สอนให้กับนักเรียนคนอื่น ให้ซ้อมทำไปพร้อมๆ กัน ในขณะที่ทำถ่ายทอดความรู้ด้านพืชสวนและสุขภาพที่เกี่ยวข้องนั้น เป็นการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติภาคสนามต่อไป
ขั้นที่ 4 การปฏิบัติภาคสนาม
เมื่อผู้เข้ารับการฝึกอบรม กลับไปยังหน่วยงานบริการของตนเอง หรือเข้าร่วมในหน่วยดูแลกรีนแคร์ พวกเขาจำเป็นต้องใช้ทักษะที่ได้เรียนรู้ในขั้นตอนก่อนหน้านี้ ออกแบบกิจกรรมสีเขียวที่เหมาะสมกับพื้นที่นั้นๆ โดยประยุกต์ใช้ทรัพยากรทางการเกษตรหรือทรัพยากรทางธรรมชาติในท้องถิ่น จะต้องนำนำผู้สูงอายุทำกิจกรรมต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ หน่วยรับรองที่เกี่ยวข้องจะทำการส่งผู้เชี่ยวชาญ 2 ท่าน ไปยังสถานที่ทำกิจกรรมนั้นๆ เพื่อสังเกตชั้นเรียนและประเมินผล โดยพิจารณาจากการความคิดสร้างสรรค์และความพิถีพิถันในการออกแบบกิจกรรม ประเมินว่ากิจกรรมนั้นๆ สอดคล้องกับแนวคิดการดูแลกรีนแคร์มากน้อยเพียงใด และประเมินจากความคิดเห็นที่นักเรียนหลังเข้าร่วมกิจกรรม
เมื่อผู้เข้ารับการฝึกอบรม ผ่านขั้นตอนทั้ง 4 ข้างต้นแล้ว จะได้รับใบรับรองผ่านหลักสูตรฝึกอบรม ซึ่งในขั้นแรกจะมีผู้ผ่านเกณฑ์สูงถึงร้อยละ 80 และผ่านเกณฑ์ในขั้นที่สอง สาม และสี่ ใบประกาศ ผู้ดูแลกรีนแคร์ (Green Caregiver) เป็นเสมือนเครื่องหมายรับรองความเป็นผู้เชี่ยวชาญดูแลกรีนแคร์
ปัจจุบันและอนาคตของการดูแลกรีนแคร์
การดูแลกรีนแคร์ เป็นแนวคิดใหม่ ในหัวข้อเวชศาสตร์ป้องกัน เริ่มต้นจากพื้นฐานของการฟื้นฟูการเกษตร ผนวกองค์ประกอบสีเขียวเข้ากับการดูแลผู้สูงอายุ การวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ขององค์ประกอบสีเขียวต่อร่างกายมนุษย์ค่อยๆ เห็นผลชัดเจนในช่วงไม่กี่ปีนี้ ความรู้ทางวิชาชีพเหล่านี้เป็นที่ต้องการมากขึ้น ดังนั้นการฝึกอบรมอย่างมืออาชีพ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ การสร้างมาตรฐานในการส่งเสริมการดูแลกรีนแคร์และการวางแผนการดำเนินงานจึงเป็นงานหลักสำคัญของสภาเกษตร (COA) ในฐานะผู้บุกเบิกแนวคิดการดูแลกรีนแคร์ นอกจากนี้ China Productivity Center : CPC จะคอยให้ความช่วยเหลือสภาเกษตรในการส่งเสริมการดูแลกรีนแคร์ โดยร่วมกับหน่วยงานเกษตร ประมง และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในไต้หวัน จัดกิจกรรมและการบริการกรีนแคร์ต่างๆ และยังก่อตั้ง Green Care Station เพื่อช่วยเหลือและให้บริการ สร้างความอบอุ่นใจแก่ผู้สูงอายุ เช่น การให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ การไปเยี่ยมเยือนบ้านเป็นประจำ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และการแบ่งปันอาหารในท้องถิ่น กิจกรรมสีเขียว เป็นต้น ทั้งหมดนี้มีความสำคัญและควรค่าแก่การดำเนินการเป็นแผนระยะยาว และเราหวังว่า คุณที่กำลังอ่านบทความนี้ จะให้ความสนใจกับการพัฒนาการดูแลกรีนแคร์ไปพร้อมๆกับเรา